น่าจับตามอง! ทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับผู้ขาย LINE SHOPPING ผู้ใช้โตกว่า 200% ร้านค้าโต 7 เท่า
- The Material
- Aug 3, 2021
- 1 min read
ในยุคโควิด-19 ที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องเหนื่อยใจ และทั้งผู้ประกอบการรายย่อยหลายรายต้องปิดกิจการไป แต่ Line Shopping จึงได้มีการปรับกลยุทธ์ใหม่ ในฐานะสื่อกลางการซื้อขายสินค้าและบริการ หลังจากเห็นการเติบโตของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากในปี 2020 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังพร้อมสนับสนุนผู้ขายรายใหม่อย่างเต็มที่ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกจ่ายให้ผู้ขายต้องหนักใจอีกด้วย
ปี 2020
คุณเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า LINE SHOPPING ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา มีจำนวนร้านค้าเพิ่มเป็น 200,000 ร้าน นับว่าเติบโตถึง 7 เท่า (64%) มียอดขายรายเดือนเฉลี่ย 150,000 – 500,000 บาทต่อร้าน คิดเป็นยอดขายรวมที่เติบโตกว่า 272%
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มจาก 3 ล้านเป็น 7 ล้านคน โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด 5 หมวดได้แก่ แฟชั่น, สุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน และไอทีแกดเจ็ต โดยหมวดแฟชั่น, สุขภาพและความงามมียอดขายมากขึ้น 35%
นอกจากนี้ LINE SHOPPING ยังสนับสนุนผู้ประกอบการด้วยการจัดแคมเปญด้วย LINE POINTS ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายต่อเจ้าของร้าน ช่วยให้ Basket Size เพิ่มขึ้น 50% และอัตราซื้อซ้ำเพิ่มอีก 12%
มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยปี 2020 อยู่ที่ 2.7 แสนล้านบาท โดย 62% มาจาก Social Commerce หรือการค้าขายบนโซเชียลมีเดียที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีการติดต่อกันโดยตรง ซึ่ง LINE SHOPPING ถือว่าอยู่ในหมวดหมู่นี้ โดยอีก 38% ที่เหลือมาจากแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและเว็บไซต์อื่นๆ ในตลาด
ในปีที่แล้ว ทาง LINE SHOPPING ได้เน้นการเพิ่มจำนวนร้านค้าบนแพลตฟอร์มผ่าน MyShop ไปแล้ว ในปี 2021 นี้จึงต้องการเน้นด้านการทำให้ประสบการณ์การขายดียิ่งขึ้นผ่านการพัฒนาฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอีกด้วย ทั้งหมดรวมกันมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการทุกราย ไม่ว่าจะแข่งกับผู้ประกอบการรายอื่นหรือในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ ก็ตาม
โดยระบบของ LINE SHOPPING ที่มีอยู่แล้ว ได้แก่
ระบบโลจิสติกส์และการชำระเงิน อาทิเช่น การร่วมมือกันของ LINE SHOPPING กับไปรษณีย์ไทย สนับสนุนค่าส่งต่ำสุดในตลาดที่ 19 บาทเท่านั้น
การติดต่อพาร์ทเนอร์และผู้ผลิตให้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มคอร์สเรียนฟรี บูทแคมป์ และคอมมิวนิตี้สำหรับผู้ขายมากขึ้น “เพื่อให้เข้าใจเทรนด์และสามารถสร้างกลยุทธ์การขายของตัวเองผ่านทาง MyShop ได้ง่ายขึ้น”
ส่วนระบบที่จะเพิ่มเข้ามาหรือกำลังจะปรับเปลี่ยนในอนาคต ได้แก่
1. LINE & Social Commerce Ecosystem
Curated Browsing Experience – ปรับวิธีการจัดเรียงสินค้า ปรับคอลเลคชั่นให้ร้านค้านำเสนอสินค้าของตัวเองให้ดีมากขึ้น
Easier Discovery – เพิ่มฟีเจอร์การเสิร์ชเข้ามาให้หาร้านค้าที่ต้องการได้ง่ายมากขึ้น
LIVE Commerce – เลอทัดอธิบายว่า LIVE Commerce เป็นการ “นำดาราและเซเลบริตี้ที่มีชื่อเสียงมาดำเนินรายการ อาทิ รายการ @TuesLive โดยป้าตือ-สมบัษร รายการแซะแซ่บโดย อั๋น-ภูวนาท และ บุ๋ม-ปนัดดา” ซึ่งสามรถกระตุ้นยอดขายได้อย่างดี ในอนาคตกำลังเตรียมเพิ่มรายการให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าให้หลากหลายกว่าเดิม
2. LINE Social Graph
เป็นบริการใหม่ที่จะทำให้ร้านค้ามีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ในรูปแบบใหม่ แต่ LINE SHOPPING ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการนี้แต่อย่างใด
เห็นเช่นนี้แล้ว ทีมงาน เดอะ แมททีเรียล ก็หวังว่าผู้ขายรายย่อยทุกท่านจะสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาเพื่อหาสื่อหรือช่องทางเพิ่มเติม ในการลงประกาศขายสินค้าได้ครับ
ทีมงาน เดอะ แมททีเรียล ขอเสนออีกหนึ่งช่องทางในการติดต่อ
และอัพเดทข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดได้ที่เฟสบุ๊คเพจ
ขอบคุณแหล่งที่มา https://brandinside.asia/line-shopping-plans-for-2021/
Comments